koy

koy

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

อบรมการละคร ณ โคราช

อบรม การละคร ณ โคราช

เพื่อนรักอีกคน

ผู้ใหญ่ใจดีที่ให้การสนับสนุน

ได้รับรางวัลชนะเลิศประกวดเรียงความ อันดับ1ของจังหวัด และอันดับ2ของภูมิภาค

โพสต์ท่ากุลสตรีไทย

ภาพซ้อม ก่อนรับจริง

เยาวชที่เด่น ปี2554

กางเกงตัวโปรด กับคนรู้ใจ เพื่อนสนิทไง

เเอ๋ว อีสาน โครงการเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเพณีค่ะ

ก่อนรับรางวัล สวยไหมค่ะ

รางวัลพระราชทาน เยาวสตรีไทยดีเด่น ประจำปี 2554

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2554

แฟนก็เหมือนไส้ติ่ง มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ขาดไปก็ไม่ตาย

วันภาษาไทย

เพราะคนเราไม่เท่ากัน โลกจริงและฝันเข้ากันไมได้

รักในหลวง

I love the king
วันภาษาไทยแห่งชาติ
วันภาษาไทยแห่งชาติ
เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ

http://glitter.kapook.com/category.php?lang=th&category_id=199

วันภาษาไทย

รักประเทศไทย

http://glitter.kapook.com/category.php?lang=th&category_id=199

เพราะว่าคิดถึง

บางเวลา... อยากบอกด้วย คำพูด บางเวลา... อยากบอกด้วย สายตา

เรื่อง เเม่

เรียงความเรื่อง แม่


          แม่ เป็นภาระให้แก่ลูกทุกคนมาตั้งแต่เกิด นั่นเป็นความจริงที่เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ ก็ลองคิดดูสิ ตั้งแต่เราเกิดมา ยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันเลย อยู่ดี ๆ ผู้หญิงคนนี้ก็มาโอบอุ้ม ถูกเนื้อต้องตัวเรา มิวายที่เราจะแหกปากร้องไห้ขับไล่ไสส่งยายผู้หญิงคนนี้ขนาดไหน เธอก็ยังพยายามปลอบโยน เห่กล่อมเราอยู่นั่นแหละ เป็นภาระให้เราต้องจำใจเงียบ ยอมนอนดูดนมเธออยู่จั่บ ๆ ๆ 
          พอเราเริ่มเตาะแตะ ตั้งไข่จะเดินไปไหนต่อไหนมั่ง คุณเธอก็ยังคอยเรียกหาเราอยู่นั่นแหละ  

          "มานี่มาลูก มานี่มา อีกนิดเดียวลูก อีกนิดเดียว อีกก้าวเดียว" ไม่รู้จะเรียกทำไมนักหนา ไอ้เราก็เดินล้มลุกคลุกคลานอยู่ เห็นมั้ย เป็นภาระที่เราต้องเดินไปให้เธอกอดอีก  
          โตขึ้นมาอีกนิด เราเริ่มกินอาหารได้ หล่อนก็เอาอะไรนักหนาไม่รู้ เละ ๆ เทะ ๆ มาบดให้เรากิน ไอ้เราจะไม่กินก็ไม่ได้ เดี๋ยวแม่จะน้อยใจ ก็เอาวะ เอาซะหน่อย เคี้ยวไปเเจ่บ ๆ อย่างนั้นแหละ แม่คุณก็ยิ้มปลื้ม คงนึกว่าเราอร่อยตายล่ะมั้งนั่นน่ะ กล้วยบดนะจ๊ะ เธอจ๋า ในปากฉันตอนนี้น่ะ ถ้าคิดว่ามันอร่อยขนาดนั้น ทำไมไม่ลองทานเองดูมั่งล่ะ
        
          ทีนี้พอเราเริ่มพูดจารู้เรื่องขึ้นมาหน่อย คราวนี้ยังไงล่ะ ผู้หญิงคนนี้กลับขับไล่ไสส่งให้เราไปโรงเรียนซะอีก ไม่ไปก็ไม่ได้ด้วยนะ บางทีมีตีเราเข้าให้อีก ภาษาอะไรนักก็ไม่รู้ เอามาให้เราหัดอ่านหัดเรียนใช่มั้ย ลองคิดดูนะ สัปดาห์หนึ่งต้องไปโรงเรียนตั้งห้าวันน่ะ มันภาระหนักหนาแก่เราแค่ไหน

         
แต่พอถึงเวลาเราจะดูทีวี ดูหนังการ์ตูน นอนดึกขึ้นมาสักหน่อย ลองนึกย้อนไปสิ ใครกันเคี่ยวเข็ญให้เราไปนอนด้วย ตัวเองง่วงจะนอนคนเดียวก็ไม่ได้นะ ต้องบังคับให้เราไปนอนเป็นเพื่อนด้วย ใช่มั้ย ที่พูดนี่ไม่ใช่ลำเลิกหรอกนะ เพียงแค่อยากให้เห็นใจกันบ้างเท่านั้น 

          วันเวลาผ่านไป เราโตขึ้น แต่แม่ก็ยังไม่ยอมโตตามเราสักที ลูกอยากจะทำผมทำเผ้า แต่งเนื้อเเต่งตัวให้มันดูอินเทรนด์ ดูทันสมัย ใคร ใครกันเป็นตัวสกัดดาวรุ่ง พูดแล้วขนลุก ผู้หญิงคนนี้มีพัฒนาการไม่คืบหน้าไปไหนเลย ว่ามั้ย

         พอเราสำเร็จจบการศึกษาเเล้วเป็นยังไง... เธอร้องไห้ครับ เชื่อเถอะว่าเธอต้องร้องไห้ ถ้าเราไม่เห็นก็แปลว่าเธอต้องแอบร้องไห้ มีอย่างที่ไหน เราคร่ำเคร่งร่ำเรียนมาแทบตาย แล้วตัวเองแท้ ๆ ที่เป็นคนเริ่มเรื่อง พอเราเรียบจบแทนที่จะดีใจดันมาร้องไห้ มีอย่างที่ไหน
          ดีนะว่าเราเข้าใจ คู่มือการเลี้ยงแม่ ก็เลยทำใจได้ ฝากเอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ขอไปฉลองการสำเร็จการศึกษากับพวกเพื่อน ๆ ที่นอกบ้านก่อน ก็แหม เรียนจบทั้งที จะมาให้นั่งดูผู้หญิงแก่ ๆ นั่งร้องไห้ทำไมล่ะ ใช่มั้ย 

          เป็นหนุ่มเป็นสาวกันแล้วนี่ คราวนี้ใคร ๆ ก็ต้องอยากมีแฟน คนโน้นก็ไม่ดี คนนี้ก็เรื่องมาก ผมยาวไปมั่งล่ะ ดูไม่มีความรับผิดชอบมั่งล่ะ...แม่ แม่จะไปรู้อะไร แม่เคยคบกับเขาเหรอ 

          ไม่ใช่แค่เรื่องคู่ครองเท่านั้นนะ แม่เขายังอยากรู้ไปจนถึงเรื่องอาชีพการงานด้วยว่าเราจะไปทำอะไร อยากเป็นอะไร
          แม่ครับ แม่ไม่รู้สักเรื่องจะได้มั้ยพวกเราจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของพวกเรา อนาคตของเรา ขอให้เราได้ตัดสินมันเอง แต่เรารับรองกับแม่ได้อย่างหนึ่งว่า เราจะไม่เป็นเหมือนแม่หรอก... เชย
          นับจากบรรทัดแรก จนมาถึงบรรทัดนี้ เวลาก็ผ่านไปหลายปีแล้ว สมควรที่พวกเราจะแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตนเองสักที ว่าแล้วเราก็ย้ายออกจากบ้านแม่ มายืนด้วยลำแข้งของตัวเอง อย่างที่แม่เคยพูดไง แล้วทำไมต้องมาทำตาละห้อยด้วยล่ะ วันที่เราย้ายออกมาน่ะ มันก็ไม่ได้ใกล้ มันก็ไม่ได้ไกลหรอกนะ ไอ้ที่ย้ายออกมาน่ะ แต่เวลามันรัดตัวจริง ๆ ใช้โทร.คุยกันก็ได้นะแม่นะ
          ถึงวันที่เรามีลูก แม่ยังพยายามอยากมาทำตัวเป็นภาระกับลูกเราด้วย เราบอกแม่ว่าไม่ต้องมายุ่งหรอก เราดูแลลูกของเราได้ เด็กสมัยนี้มันไม่เหมือนกับสมัยแม่แล้วล่ะ

          แม่อายุเกือบหกสิบปีแล้ว โทร.มาไอแค่ก ๆ บอกไม่ค่อยสบาย เราบอกแม่ว่าอย่าคิดมาก ในใจเรารู้อยู่แล้วว่าแม่พยายามเรียกร้องความสนใจ นั่นเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติของคุณแม่วัยนี้ 

          จวบจนกระทั่งวันหนึ่ง คุณโทร.กลับไปที่บ้านแม่ แต่... ไม่มีคนรับสายแล้ว อย่าเพิ่งตกใจ แม่อาจจะออกไปทำบุญที่วัดตามประสาคนแก่ก็ได้ ลองโทร.เข้ามือถือแม่ดูซิ...ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก... 
          อย่าเพิ่งด่วนสรุป มือถือแม่อาจจะแบตหมดก็ได้ ผู้หญิงคนนี้กระดูกเหล็กจะตายไป เธอต้องไม่เป็นอะไรแน่ ๆ คิดฟุ้งซ่านไปได้ ยังไงแม่ก็ต้องรอเราอยู่เหมือนเดิมน่ะแหละ ไปหาเมื่อไหร่ก็ต้องเจอ อย่างมากแกก็อาจจะงอนนิด ๆ หน่อย ๆ พอเห็นหลานตัวเล็ก ๆ วิ่งเข้าไปกอดก็ขี้คร้านจะอ่อนยวบเป็นขี้ผึ้ง หลายวันผ่านไป ทำไมแม่ยังไม่โทร.กลับมาอีกนะ ทำบุญตักบาตรก็ไม่น่าจะรอคิวนานขนาดนี้ ชาร์จแบตมือถือไม่เต็มก็เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นแบตเตอรี่รถสิบล้อป่านนี้ไฟทะลักแล้ว 

          วันนี้แวะไปหาแม่สักหน่อยดีกว่า ระหว่างทางที่คุณขับรถไป ลูกคุณซนเป็นลิงอยู่ข้าง ๆ ประโยคมากมายที่หลุดจากปากคุณ ล้วนเเต่เป็นคำที่แม่คุณเคยพูดมาแล้วทั้งสิ้น คุณเพิ่งสัมผัสได้ ภาพเก่า ๆ มากมายที่ผู้หญิงคนนั้นทำวิ่งวนอยู่ในหัวคุณ ช่างเถอะ.. เดี๋ยวเจอเธอแล้ว คุณจะสารภาพผิด แล้วทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น แล้วคุณก็ได้เจอ คนที่คุณรู้สึกว่าเธอเป็นภาระให้กับคุณมาตั้งแต่เกิด 

          ผู้หญิงคนนั้น นอนตายในท่าที่คอยคุณมาตลอดชีวิต...

http://hilight.kapook.com/view/14166

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

เรื่องรักนำมาฝาก

5 เหตุผลดีๆ ที่ทุกคู่รักควรทำกิจกรรมร่วมกัน

ทำกิจกรรมกับคนรัก

ไปดูกันซิว่า การทำกิจกรรมกับคนที่เรารัก ดียังไง?

  • ได้เพิ่มหัวข้อสนทนา  ไหนจะเรื่องสนุกๆ  ที่เจอในคลาสไปจนถึงงานที่ต้องทำส่งอาจารย์  เรื่องพวกนี้พวกคุณสามารถยกมาเป็นหัวข้อสนทนาได้ทั้งนั้น

  • มีเวลาเรียนรู้กันมากขึ้น  ให้ฉวยเอาโอกาสขณะเข้าคลาสด้วยกันนี่แหละ ค่อยๆ เรียนรู้คู่ของคุณ  คุณอาจจะได้เห็นเขาในแง่มุมใหม่ที่คาดไม่ถึง

  • ได้แลกเปลี่ยนมุมมองและทัศนคติ  กิจกรรมใหม่ๆ  นอกจากจะให้ความรู้แล้ว  ยังฝึกให้เราต่างเป็นคนที่ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น  ช่วยเปิดมุมมองและโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้น

  • ลดความขัดแย้ง  กิจกรรมที่น่าสนใจจะช่วยลดดีกรีความขัดแย้งและเรื่องพ่อแง่แม่งอนตอนไม่มีอะไรทำลงเหมือนคุณและเขาได้พักรบกันชั่วคราว

  • เกิดแรงผลักดันเรื่องเดียวกัน  สิ่งที่ทำจะทำให้คุณและเขามีเป้าหมายร่วมกัน  และเมื่อมีเป้าหมายเดียวกันแล้วความสามัคคีปรองดองก็ตามมา
ที่มา
http://www.google.co.th/imgres?

ชีวิตคู่

วันนี้นำเรื่องชีวิตคู่มาฝากนะค่
ความอบอุ่นในครอบครัวนั้น เกิดจากความรักความเข้าใจ ความปรารถนาดี และความรับผิดชอบของทุกคนในครอบครัว ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาของเด็ก พูดได้ว่า เด็กจะเติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพมากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับการอบรมเลี้ยงดูของบุคคลในครอบครัว นอกเหนือจากพ่อแม่แล้ว ญาติผู้ใหญ่ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ก็ต้องช่วยกันเลี้ยงดูและปลูกฝังอบรมลูกหลานอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งให้ความรัก ความอบอุ่น เพื่อให้เขาเหล่านั้นเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ทั้งร่างกายสติปัญญา และจิตใจ ด้วยสายใยรักอันบริสุทธิ์
ความเป็นครอบครัวเกิดขึ้นเมื่อบุคคลสองคนมีรากฐานของความรัก ความผูกพัน ตัดสินใจมาดำเนินชีวิตร่วมกัน การแต่งงานเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการกำเนินชีวิตครอบครัว
บุคคลส่วนใหญ่ตัดสินใจแต่งงานด้วยความหวังว่าจะมีความสุขมากกว่าเดิม มีเพื่อนคู่ใจ มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ และคาดหวังว่าจะอยู่กับชีวิตคู่ตลอดไป แต่ในชีวิตจริง ชีวิตคู่ของหลายคนไม่ได้เป็นเช่นนั้น ทั้งนี้เพราะต่างฝ่ายต่างต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน คนที่ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่นั้น ความสำคัญมาได้อยู่ที่ว่ารักกันมากแค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับว่ามีการอยู่ร่วมกันอย่างไร มีวิธีการจัดการกับความขัดแย้งที่ดีหรือไม่ ตลอดมีการสื่อสารระหว่างกันอย่างไร ที่สำคัญมีความซื่อสัตย์ ให้เกียรติ และอุทิศตนให้แก่กันเพียงใด คู่สมรสต้องใช้ความพยายามที่ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งสองครั้ง แต่อาจเป็นความพยายามเกือบตลอดชีวิตของการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน

การเสริมสร้างชีวิตคู่
คนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับละครหรือภาพยนตร์ที่มักจะลงเอยที่การแต่งงานอย่างมีความสุขของตัวเอก และจะคิดว่านั่นเป็นจุดสิ้นของเรื่องราวปัญหาทุกอย่าง ...คุณก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยคิดอย่างนั้นใช่ไหมค่ะ... ในความเป็นจริงการใช้ชีวิตคู่ไม่ได้สวยหรูเช่นนั้น เพราะการแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของการมีชีวิตใหม่ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่คนเรายังไม่คุ้นเคย และมีเรื่องราวมากมายที่น่าจะได้เรียนรู้
ดิฉันขอนำเสนอเรื่องราวนี้ที่เคยได้ศึกษามา และคิดว่าเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจ และพัฒนาไปสู่การเสริมสร้างชีวิตคู่ ให้มีความมั่นคงและเข้มแข็งมาฝากคุณ ลองอ่านดูนะค่ะ คาดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ของคุณ







ภารกิจของชีวิตคู่ที่ต้องทำให้กันและกัน
-                     ดูแลเอาใจใส่กัน
-                     สร้างความรัก (ใคร่) และผูกพัน
-                     การอุทิศตนแก่กัน
-                     ต่างฝ่ายมีการให้และรับกันอย่างสมดุล
-                     มีการสื่อสารที่ดี
-                     ขจัดความขัดแย้ง
-                     พึ่งพาลูกต้องช่วยกันดูแลลูก
-                     บริหารภายในครอบครัวให้ดี

ภารกิจของชีวิตคู่ที่ต้องทำให้คนอื่น
-                     สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวเดิมของกันและกัน
-                     สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงของกันและกัน
-                     สร้างขอบเขตที่เหมาะสมระหว่างคุณทั้งสองกับบุคลอื่น

ในชีวิตคู่ คุณต้องตระหนักว่าไม่ได้มีเพียงคุณเท่านั้น
คุณเป็นส่วนหนึ่งของซึ่งกันและกัน ตัดสินใจมาสร้างครอบครัวใหม่ด้วยกัน
และมีเป้าหมายของชีวิตคู่ร่วมกัน
คุณจำเป็นต้องลดความเป็นตัวตนให้น้อยลง
และความคำนึกถึงความรู้สึก ความคิดขอบงคนรักคุณมากขึ้น
ชีวิตคู่ของคุณจะราบรื่น
หากคุณหัดที่จะมองเชิงบวก มองความเป็นจริงด้วยเหตุและผล
ในมุมองที่กว้างขึ้น มีความยืดหยุ่น หัดที่จะให้กำลังใจกัน
และสิ่งที่คุณไม่ควรลืมก็คือ....
ในโลกนี้ไม่เคยมีใครไม่ทำผิด และไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบที่สุด
นอกจากนั้น มิตรภาพเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เพราะมิตรภาพหรือความเป็นเพื่อนนั้นมีความหมายพิเศษ
ที่คู่รักจะมีทั้งความสนุกสนานและความสุขด้วนกัน ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกัน
และในความเป็นมิตรนั้น
ทั้งคู่ต่างมีความเติบโตขึ้นตามวิถีทางของตนเอง
ชีวิตคุณก็ยังคงเป็นของคุณ
เพียงแต่มี เขา เธอ เข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตของคุณ
ดังนั้น คุณจึงควรคำนึงถึงความรู้สึก ความต้องการของคนที่คุณนัก
เปรียบเสมือนเป็นความรู้สึกของตนเอง
อย่าปล่อยให้ความรักเป็นไปตามธรรมชาติ
แต่จงเอาใจใส่ รดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย และดูแลให้อยู่ในสภาพอากาศมีเหมาะสม
เพื่อที่ต้นไม้แห่งความรักของคุณ
จะได้เจริญเติบโตเป็นต้นไม้ที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีดอกผลให้คุณได้ชื่นชม
และ เติบโตจนกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงต่อไป
อย่างไรก็ตาม....ฝากไว้ว่า
ถึงแม้ครอบครัวใหญ่จะมีความสำคัญ แต่ครอบครัวเดิมก็ยังคงมีความสำคัญ
การที่คุณทั้งสองเห็นความสำคัญของครอบครัว
ทั้งครอบครัวเดิมและครอบครัวใหม่
ในวันข้างหน้า เมื่อคุณเป็นพ่อแม่คน
คุณจะได้รับความกตัญญูจากลูก
เหมือนอย่างที่คุณมีกับพ่อแม่ ของคุณเช่นเดียวกัน
ด้วยความปรารถนาดี นางสาวรูกอยะ เซ็งมาดี



นิทาน เรื่อง เต่ายักษ์ใฝ่รู้



วันนี้มีนิทานมาฝากด้วยนะค่ะ
        กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว....ภายใต้ท้องสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งเป็นแหล่งอาหารของเหล่าสัตว์น้ำหลายชนิด ชีวิตที่อยู่ในพื้นน้ำสีน้ำเงินเข้มนั้น ต่างก็อยู่กันอย่างมีความสุขเรื่อยมา เหมือนดังว่า ที่นี่เป็นที่เดียวที่ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว
ฉันชอบที่นี่ เพราะเป็นชีวิตที่มีความสุขจริงๆ
ชีวิตแต่ละวันไม่มีเปลี่ยนแปลง ตื่นขึ้นมาก็ออกหาอาหาร ณ เวลาหนึ่งก็หยุดพักไม่เคยรู้วันเวลา ปฏิบัติเช่นนี้มาตลอด
ชีวิตนี้ช่างมีความสุขจริงๆ
ปลาชนิดหนึ่งแหวกว่ายอย่างร่าเริง ก่อนที่ปลาตัวใหญ่อีกตัวงับเอาไปกินในวินาทีต่อมา
ชีวิตนี้ช่างมีความสุขจริงๆ ฉันชอบที่นี่
ปลายักษ์ยิ้มด้วยความพอใจแล้วค่อยๆแหวกว่ายไปอย่างช้าๆ  บนพื้นท้องทะเลเต็มไปด้วยปะการังสีสวยงามมากมาย ปลาเล็กปลาน้อยสีสด แหวกว่ายหาอาหารอยู่ตามกอปะการังอย่างเพลิเพลิน
เฮ้อ.....เซ้งจังเลย
เต่ามะเฟืองตัวใหญ่ว่ายน้ำมาอย่างเหนื่อยหน่ายเชื่องช้า
เป็นอะไรล่ะ เพื่อนรัก ทำหน้าเบื่อโลกมาเชียว
ปลาตัวหนึ่งทักทายเต่ายักษ์
เบื่อชีวิตจำเจที่นี่จัง
เต่ายักษ์ว่ายต่ำลงมา
อะไรกันท้องทะเลตั้งกว้างใหญ่ เบื่อที่นี่ที่อื่นก็มีอีกเยอะแยะ จะมัวเซ็งกันทำไม
ปลาว่ายไปรอบๆเป็นเพื่อนเต่า  เมื่อเจ้าเต่ามะเฟือยงยักษ์ นึกอะไรขึ้นมาได้จึงเกริ่นกับเพื่อนว่า
ข้าว่าจะขึ้นไปเที่ยวบนบก ซักเดือน
เต่าหันไปบอกเพื่อนปลา
จะบ้าหรอ อยู่ที่นี่ก็แสนสบาย ข้าวปลาอาหารเยอะแยะ จะไปลำบากบนบกทำไม
เพื่อนปลาเตือนเพื่อน
แกรู้ได้อย่างไรว่าบนบกมาสบาย
เจ้าเต่าไม่เชื่อ
คิดอะไรบ้าๆ
เพื่อนปลาบ่น
ข้าไปดีกว่า เล้วเจอกันนะ
ว่าแล้วเจ้าเต้ายักษ์ก็ว่ายน้ำมุ่งหน้าสู่ฝั่งทันที   
หาดทรายสีขาว ทอดยาวโอบน้ำทะเลสีครามสุดลูกหูลูกตา เจ้าเต่ามะเฟืองยักษ์คลานตัวเตี้ยมจากทะเลขึ้นมาท่าทางตื้นเต้น
โอ้โฮ...บนบกนี่สวยงามจริงๆเจ้าปลาเพื่อนข้า หาดทรายสีขาวสะอาดตา ท้องฟ้าสีน้ำเงินสดใส เมฆขาวลอยอยู่บนภูเขานั้นดูแล้วมีชีวิตชีวาจังเลย
ตลอดระยะเวลาการท่องเที่ยว เต่ายักษ์ได้เจอกับเพื่อนใหม่มากมาย
วันพรุ่งนี้ฉันจะพานายไปเที่ยวที่ภูเขาลูกนั้น
เจ้าช้างตัวหนึ่งบอกเพื่อนเต่า
มีอะไรน่าสนใจหรอ
เต่าถามเพื่อนช้าง
นายจะได้มองเห็นปลาและทะเลบริเวณกว้างได้ทั่วเลยแหล่ะ
เจ้าช้างสาธยายเห็นภาพ
ดีๆฉันอยากอยากเห็น
เต่าดีอกดีใจ
ฉันจะพานายขึ้นต้นไม้สูงๆนายจะเห็นว่าที่นี่สวยงามแค่ไหน
เจ้านกเพื่อนที่เล็กที่สุดบอก
เจ้าเต่ายักษ์สนุกสนานอยู่กับเพื่อนใหม่ๆได้รับรู้ ได้พบ ได้สัมผัสกับสิ่งใหม่ๆมากมาย แล้วจึงเดินทางกลับสู่ท้องทะเลไปเล่าให้เพื่อนปลาฟัง เพื่อนปลาไม่เชื่อหาว่าโกหก เพราะปลาคิดว่าสิ่งต่างๆที่เห็นในน้ำ มันคือโลกทั้งหมดแล้ว
โธ่เอ๊ย.....อย่ามาโม้เลย ไม่มีสถานที่แบบที่นายบอกเล่าแน่นอน ฉันไม่เชื่อ ปลาส่ายหน้า
นายนี่ไม่ยอบรับรู้ความรู้ใหม่เลยน่ะ เฮ้ย
เต่าเล่าจนอ่อนใจ แล้วก็ว่ายน้ำจากไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.. การศึกษาใฝ่หาความรู้ใหม่อยู่เสมอ เป็นสิ่งจำเป็น

โรงเรียนที่อยากสอนในอนาคต

ที่อยู่ : โรงเรียนบ้านมาแฮ บ้านมาแฮ ตำบลบ้านมาแฮ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา 95140 เบอร์โทรศัพท์ 073201761

เที่ยวสะบารัง

มัสยิดกลางจังหวัดยะลา (Yala Central Mosque)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
เป็นมัสยิดใหญ่ประจำจังหวัดยะลา มัสยิดแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2527 เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่สอดแทรกเส้นกรอบทรงสุเหร่าไว้ได้อย่างกลมกลืน ด้านหน้าเป็นบันไดกว้าง สูงประมาณ 30 ขั้น ทอดสู่ลานชั้นบน หลังคาทรงสี่เหลี่ยมมีโดมใหญ่อยู่ตรงกลาง นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่พักในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
หรือเรียกอีกอย่างว่า "วัดหน้าถ้ำ" เป็นหนึ่งในสามปูชนียสถานที่สำคัญของภาคใต้ เช่นเดียวกับพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุไชยาที่สุราษฎร์ธานี แสดงถึงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในบริเวณนี้มาตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าถ้ำ ห่างจากตัวเมือง 8 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางไปอำเภอยะหา บริเวณวัดร่มรื่นมีธารน้ำไหลผ่าน บันไดขึ้นไปยังปากถ้ำมีรูปปั้นยักษ์ ชาวบ้านเรียกว่า "เจ้าเขา" สร้างโดยช่างพื้นบ้านเมื่อปี พ.ศ. 2484 ภายในถ้ำมีลักษณะคล้ายห้องโถงใหญ่ ดัดแปลงปรับปรุงเป็นศาสนสถาน มีปล่องที่เพดานถ้ำยามแสงแดดส่องลงมาดูสวยงามมาก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างมาแต่ปี พ.ศ. 1300 เป็นพระพุทธไสยาสน์สมัยศรีวิชัย ที่มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้ว เชื่อกันว่าเดิมเป็นปางนารายณ์บรรทมสินธุ์ เพราะมีภาพนาคแผ่พังพานปกพระเศียร ต่อมาจึงได้ดัดแปลงเป็นพระพุทธไสยาสน์แบบหินยาน
มัสยิดกลางจังหวัดยะลา พระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ ณ วัดคูหาภิมุข
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ตั้งอยู่ถนนพิพิธภักดี หน้าศาลากลางจังหวัดยะลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยอดเสาหลักเมืองให้เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ภายในศาลประดิษฐานยอดเสาหลักเมือง ซึ่งสร้างด้วยแก่นไม้ชัยพฤกษ์สูง 50 เซนติเมตร วัดโดยรอบที่ฐาน 43 นิ้ว ที่ปลาย 36 นิ้ว พระเศียรยอดเสาเป็นรูปพรหมจตุรพักตร์และเปลวไฟ บริเวณโดยรอบเป็นสวนสาธารณะ ร่มรื่น สวยงาม และจะมีการจัดงานสมโภชเจ้าพ่อหลักเมือง ระหว่างวันที่ 25–31 พฤษภาคม ของทุกปี
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ เป็นพระธาตุเจดีย์แบบทวาราวดีศรีวิชัย ตั้งอยู่ที่วัดพุทธาธิวาส ถนนรัตนกิจ ในตัวเมืองเบตง โดยตัวเจดีย์ตั้งอยู่บนเนินเขา มีขนาดความกว้าง 39 เมตร สูง 39.9 เมตร เป็นมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงามและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มหาธาตุเจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองและถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ
สวนขวัญเมือง (Khwan Muang Garden)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล 1 ในเขตเทศบางเมืองยะลา ห่างจากศาลหลักเมืองยะลาประมาณ 300 เมตร เป็นสวนสาธารณะของเทศบาลเมืองยะลา พื้นที่รวมทั้งสิ้นประมาณ 207 ไร่ จุดเด่นอยู่ที่สระน้ำใหญ่เนื้อที่ 69 ไร่ พื้นที่โดยรอบเป็นหาดทรายและทิวสนจำลองทัศนียภาพของหาดทรายชายทะเลมาไว้ให้ชาวเมืองได้พักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากจังหวัดยะลา ไม่มีพื้นที่ติดต่อกับชายทะเล นอกจากนี้ยังเป็นที่จัดกิจกรรมแข่งขันนกเขาชวาเสียง มีสนามแข่งขันนกเขาชวาเสียงที่ใหญ่และมีมาตรฐานที่สุดในภาคใต้
สวนสาธารณะสนามช้างเผือก (White Elephant Field Park)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเมือง
ตั้งอยู่ที่ถนนพิพิธภักดี มีเนื้อที่ทั้งหมด 80 ไร่ เคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีน้อมเกล้าฯ ถวายช้างเผือก "พระเศวตสุรคชาธาร" แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2511 ภายในสวนสาธารณะมีศาลากลางน้ำรูปปั้นสัตว์ต่าง ๆ และเป็นสถานที่จัดกิจกรรมของจังหวัด
สวนสาธารณะเทศบาลตำบลเบตง (Betong Municipality Park)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
หรือที่เรียกกันว่า "สวนสุดสยาม" ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 120 ไร่ ตั้งอยู่บนเนินเขากลางเมืองเบตง ประกอบด้วยสวนไม้ดอกไม้ประดับ สวนนก สวนสุขภาพ สนามกีฬา สระว่ายน้ำ และสนามเด็กเล่น เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย หากเดินทางจากสวนสาธารณะเลยไปอีก 7 กิโลเมตรจนสุดถนนสุขยางค์จะถึงจุดใต้สุดของประเทศไทย ซึ่งมีถนนเชื่อมต่อไปยังประเทศมาเลเซีย
สวนขวัญเมือง สวนสาธารณะสนามช้างเผือก
สถานที่ตั้ง : อำเภอรามัน
ห่างจากตัวเมืองยะลาประมาณ 19 กิโลเมตร ตามเส้นทางยะลา-โกตาบารู เลี้ยวเข้าตำบลโกตาบารู ถึงตำบลท่าเรือประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวเข้าถนนหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงทางเข้าน้ำตก เข้าไปประมาณ 500 เมตร น้ำตกตะวันรัศมีเป็นน้ำตกที่สวยงามแตกต่างจากน้ำตกอื่น ๆ เพราะเมื่อแสงแดดกระทบกับสายน้ำ จะทำให้สีของหินใต้แอ่งน้ำเป็นสีเหลืองสวยงาม
สถานที่ตั้ง : อำเภอบันนังสตา
หรือเรียกอีกอย่างว่า "น้ำตกกือลอง" ตั้งอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ บนเขาปกโยะ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร จากนั้นเจอแยกซ้ายเลี้ยวเข้าไปอีกประมาณ 8 กิโลเมตร น้ำตกนี้ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2507 มีทั้งหมด 5 ชั้น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงพระราชทานนามน้ำตกแห่งนี้ว่า "น้ำตกสุขทาลัย" เป็นน้ำตกที่มีทัศนียภาพสวยงาม และมีแอ่งน้ำสำหรับเล่นน้ำได้
เขื่อนบางลาง (Bang Lang Dam)
สถานที่ตั้ง : อำเภอบันนังสตา
ตั้งอยู่บ้านบางลาง ตำบลบาเจาะ ห่างจากตำบลบาเจาะไปตามทางหลวงหมายเลข 410 ประมาณ 50 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายไปอีก12 กิโลเมตร เขื่อนบางลางเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเอนกประสงค์แห่งแรกในภาคใต้ ที่สร้างปิดกั้นแม่น้ำปัตตานี เป็นเขื่อนแบบหินทิ้งแกนดินเหนียว สูง 85 เมตร สันเขื่อนยาว 422 เมตร สามารถเก็บกักน้ำได้ 1,420 ล้านลูกบาศก์เมตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรง ประกอบพิธีเปิดเขื่อน บางลาง เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2524 บริเวณเหนือเขื่อนในบริเวณที่ตั้งของสำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ มีจุดชมทิวทัศน์มองเห็นทัศนียภาพของเขื่อน อ่างเก็บน้ำและทิวเขาโดยรอบได้สวยงาม ติดต่อบ้านพักรับรอง โทร. 0 7329 9237-8 บริการล่องเรือหรือแพชมทิวทัศน์ทะเลสาบเหนือเขื่อน โทร. 0 7328 1063-66 ต่อ 2291
น้ำตกสุขทาลัย เขื่อนบางลาง
ถ้ำกระแชง (Krachaeng Cave)
สถานที่ตั้ง : อำเภอบันนังสตา
ตั้งอยู่ที่บ้านกาโสด ตำบลบันนังสตา ห่างจากจังหวัดยะลา ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ประมาณ 50 กิโลเมตร เลยแยกปากทางเข้าเขื่อนบางลางไปเล็กน้อย แล้วแยกซ้ายเข้าไปตามทางลูกรังอีก 1.5 กิโลเมตร มีทัศนียภาพของภูเขา ธารน้ำและถ้ำลอดที่สวยงาม ในช่วงที่น้ำน้อยสามารถเดินเลาะเลียบตามลำธารลอดถ้ำไปทะลุอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่โล่ง โอบล้อมด้วยภูเขาและแมกไม้เขียวขจี มีทัศนียภาพสวยงาม
สถานที่ตั้ง : อำเภอธารโต
น้ำตกธารโต อยู่ที่ตำบลถ้ำทะลุ ห่างจากตัวเมืองยะลาไปตามถนนสายยะลา-เบตง (ทางหลวง 410) กิโลเมตรที่ 47-48 มีทางแยกขวาไปอีกราว 1 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 7 ชั้น มองเห็นเป็นทางน้ำที่ไหลลดหลั่นมาจากภูเขาสูง มีแอ่งน้ำซึ่งสามารถเล่นน้ำได้ โดยรอบร่มรื่นไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจมากมายรวมทั้งต้นศรียะลา หรืออโศกเหลือง ซึ่งจะออกดอกชูช่อสีเหลืองสวยงามในราวเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่พักในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย
สถานที่ตั้ง : อำเภอธารโต
เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ระหว่าง เขตติดต่ออำเภอธารโต และอำเภอเบตง ห่างจากจังหวัดยะลาประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เส้นทางยะลา-เบตง ถนนลาดยางตลอด ก่อนถึงอำเภอเบตงประมาณ 40 กิโลเมตร จะมีถนนดินแยกเข้าน้ำตก ประมาณ 100 เมตร น้ำตกแห่งนี้มีความงดงามเกิดจากละอองน้ำตกกระทบแสงแดดมองเห็นเป็นสีรุ้ง อยู่เบื้องล่างริมภูผามีความร่มรื่นตลอดทั้งวัน
ถ้ำกระแชง น้ำตกธารโต น้ำตกละอองรุ้ง
น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 (Chaloem Phra Kiat Ro Kao waterfall)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลอัยเยอร์เวง ใช้เส้นทางหมายเลข 410 ระหว่างอำเภอธารโตและอำเภอเบตง แยกขวาช่วงกิโลเมตร 32-33 ไปตามทางลูกรังอีก 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 30 เมตร รอบบริเวณปกคลุมไปด้วยพรรณไม้เขียวขจี
น้ำตกอินทสร (Inthasorn Waterfall)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
อยู่ห่างจากตัวเมืองเบตง 15 กิโลเมตร หรือเลยจากบ่อน้ำร้อนเบตงไปอีก 2 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็กที่เกิดจากภูเขา รอบบริเวณปกคลุมด้วยป่าไม้ร่มรื่น และมีแอ่งน้ำสามารถว่ายน้ำเล่นและมีบริเวณที่ให้พักผ่อนได้เช่นกัน
ป่าบาลา-ฮาลา (Bala-Hala Forest)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
เป็นป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณ สัตว์ป่าและนกหายากนานาชนิด และเป็นที่อาศัยของคนป่าเผ่าซาไก มีพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ในแนวรอยต่อระหว่างจังหวัดยะลาและนราธิวาส เป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำในเขื่อนบางลาง นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมธรรมชาติของขุนเขา ป่าไม้และสายน้ำ โดยติดต่อเช่าเรือได้ที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 ถนนสุขยางค์ อำเภอเบตง
น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 น้ำตกอินทสร ป่าบาลา-ฮาลา
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
อยู่ที่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ ใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำร้อนและน้ำตกอินทสร แต่อยู่เลยบ่อน้ำร้อนไปอีก 4 กิโลเมตร บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เดิมเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (เขต 2) อุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 เป็นอุโมงค์คดเคี้ยวเข้าไปในภูเขายาวประมาณ 1 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 50-60 ฟุต ใช้เวลาในการขุด 3 เดือน มีทางเข้าออกหลายทาง ใช้เป็นที่หลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียง บริเวณนี้จัดให้มีนิทรรศการแสดงภาพประวัติศาสตร์ รวมทั้งวิถีการดำเนินชีวิตภายในป่า ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากอีกแห่งหนึ่งของเบตง เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 -16.30 น.
ฝูงนกนางแอ่น (The Swift)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
ยามพลบค่ำบนท้องฟ้าในย่านชุมชนกลางเมืองเบตง จะเต็มไปด้วยนกนางแอ่นที่บินมาอาศัยหลับนอนเกาะอยู่ตามอาคารบ้านเรือนและสายไฟฟ้าอยู่มากมาย โดยเฉพาะที่บริเวณหอนาฬิกาซึ่งประดับด้วยไฟฟ้าสว่างไสวตลอดคืน ซึ่งจะมีนกหนาแน่นเป็นพิเศษ เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเบตง นกนางแอ่นเหล่านี้อพยพหนีความหนาวมาจากไซบีเรีย จะพบเห็นเป็นจำนวนมากในช่วงเดือนกันยายน-มีนาคม
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
บ่อน้ำร้อนเบตง อยู่ที่บ้านจะเราะปะไร ตำบลตะเนาะแมเราะ อำเภอเบตง ห่างจากจังหวัดยะลา ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 แล้วแยกไปตามทางลาดยางอีกประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นบ่อน้ำร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ความร้อนของน้ำสามารถต้มไข่ให้สุกได้ภายในเวลา 7 นาที ประชาชนและผู้เยี่ยมเยือนนิยมมาอาบน้ำแร่ซึ่งเชื่อกันว่าทำให้สุขภาพดีและรักษาอาการปวดตามร่างกายได้
อุโมงค์ปิยะมิตร ฝูงนกนางแอ่น บ่อน้ำร้อนเบตง
สถานที่ตั้ง : อำเภอธารโต
ตั้งหมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแหร ห่างจากตัวจังหวัดยะลาไปทางเบตงประมาณ 80 กิโลเมตร ด้านขวามือ มีทางเข้าไปยังหมู่บ้านที่อาศัยของชนเผ่าซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม "เงาะซาไก" เดิมดำรงชีวิตอยู่ด้วยการหาของป่า มีความชำนาญในด้านสมุนไพรและเป่าลูกดอกล่าสัตว์ บ้านเรือนของซาไกเดิมสร้างด้วยไม้ไผ่และมุงหลังคาจาก ต่อมากรมประชาสงเคราะห์ได้พัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้ โดยรวบรวมชาวซาไกมาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน และให้มีอาชีพทำสวนยางและได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีขอใช้คำว่า "ศรีธารโต" ให้ทุกคนใช้เป็นนามสกุล ปัจจุบันมีชนเผ่าซาไกที่ยังคงอาศัยอยู่บ้าง แต่บางส่วนได้แยกย้ายไปทำงานที่อื่น
หอนาฬิกา (The clock Tower)
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
อยู่ที่บริเวณสี่แยกใจกลางเมืองเบตง เป็นสิ่งก่อสร้างเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง สร้างด้วยหินอ่อนที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีโรงแรมที่พักในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย
หมู่บ้านซาไก หอนาฬิกา
สถานที่ตั้ง : อำเภอเบตง
"เบตง" เป็นภาษามลายู หมายถึง ไม้ไผ่ ตั้งอยู่ใต้สุดของประเทศไทย ห่างจากจังหวัดยะลาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ระยะทางประมาณ 140 กิโลเมตร โดยเฉพาะเส้นทางช่วงระหว่างอำเภอธารโต-เบตง เป็นเส้นทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา มองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบ ป่าไม้และสวนยาง ตัวเมืองเบตงตั้งอยู่ในโอบล้อมของขุนเขาอากาศเย็นสบาย มีฝนตกชุก และมักมีหมอกปกคลุมในยามเช้า จนได้รับสมญานามว่า "เมืองในหมอก ดอกไม้งาม" เป็นอำเภอใหญ่ที่มีความเจริญ ชาวมาเลเซียนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว มีอาหารการกินที่สมบูรณ์ และมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งในและนอกตัวเมืองมากมาย

ขอบคุณข้อมูล
http://www.sawadee.co.th/thai/yala/attractions.htm

เที่ยวเบตง

ทริปเที่ยว เบตง (1)

เบตง (1)
จะไปเบตงง่ายที่สุดหากไม่ได้ไปจาก กทม. ก็คือไปต่อรถที่หาดใหญ่เพราะที่นี่มีทุกสิ่งให้คุณเลือกสรร จะไปมาเลย์ไปสิงคโปร์ก็มี ..เคยเห็นที่เชียงใหม่มีรถบัสบริการมาถึงหาดใหญ่นี่

1.มันเริ่มจาก . . .
ผม เปิดเชคข้อความบนอีเมลล์ตามปกติชีวิตประจำวันของคนเมืองเช่นเคย แต่วันนี้รู้สึกดีใจที่มีข้อความอื่นนอกเหนือจากฟอร์เวิรดเมลและโฆษณา เป็นข้อความเชิญชวนไปเดินป่าในจ.พัทลุง ผมตบปากรับข้อความมั่นว่าจะไปเดินด้วย
.
.

.
…..อีก 3 วันต่อมา เสียงตี้ตู่ของโทรศัพท์ดังขึ้นพร้อมโชว์เบอร์ที่คุ้นเคย เสียงกรอกตามสัญญานไร้สายพี่สาวอีกคนชวนให้ไปเที่ยวป่าในจ.ระนอง แต่ก่อนหน้าเดินป่าในพัทลุง 1 สัปดาห์
เมื่อ มีหัวแล้วมีหางแล้วก็เหลือตรงกลางที่จะหาทริปมายัดให้ลงไปครั้งเดียวเที่ยว ให้คุ้ม แล้วจะหาอะไรมายัดลงไปหละนี่ หลังจากเดินป่าที่ระนองเสร็จเรียบร้อย จะไปไหนต่อก็ต้องตั้งหลักกันก่อน นี่ก็เย็นมากแล้วไปไหนไม่ถูก หูตาฝ้าฟางด้วยมองไปทางไหนใน จ.ระนองก็เจอแต่พี่หม่อง ….ด้วยความปรานีปนสมเพช พี่ๆก็ชวนผมไปตั้งหลักที่ภูเก็ตอันเป็นนิวาสถานของพี่ๆก่อน
จาก ไปไหนมาดอทคอมก็อาจเปลี่ยนเป็นเวบไปไหนดีวะดอทคอมได้ เพราะผมมักจะขี้เกียจวางแผนล่วงหน้ายาวๆ ด้วยเป็นคนใจโลเล สามนาทีเปลี่ยนแผนได้ร้อยแบบ เปลี่ยนสาวได้ร้อยคน ก็เลยได้กินแห้วร้อยกระป๋องไปด้วย อุอุ
ภูเก็ตร้อนๆจ้า
ยามแดดเปรี้ยงตรงหัวนี่ภูเก็ตก็ไม่ยอมแพ้ใครนะครับ โดนแดดเปรี้ยงไปนัดเดียว ผมนอนจมกองเหงื่อหายใจรวยรินเป็นหมาแบกแดด (หอบอย่างเดียวคงไม่พอ) ยามเย็นหน้าหาดสักหาดขอบๆเมืองภูเก็ตพระอาทิตย์คล้อยลอยต่ำและตกลงน้ำเสียง ฉ่าาา ในที่สุดพระเพลิงของวันนี้ก็มอดลง พระจันทร์เสี้ยวมาเข้าเวรแทน แต่ดูเหมือนแสงไฟเทียมที่ชาวโลกสร้างขึ้นดูจะโดดเด่นกว่าแสงจันทร์
ผมหยิบแผนที่ประเทศไทยขึ้นมาสำรวจใต้แสงไฟนีออนในห้องสี่ เหลี่ยมแคบๆ จนบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปไหนดี แรกๆว่าจะไปกระบี่แต่พิจารณาถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องไปคนเดียวแล้วคงแพงเอาการอ ยู่ ไหนจะค่าที่พัก ไหนจะค่าเรือ แถมที่แต่ละที่ไกลกันมากเกิน แล้วจะไปไหนดี เหลือบมองไปสุดปลายขวานเห็นเมืองติ่งประเทศนามว่าเบตง เกิดไอเดียปิ๊งๆ…..ตกลงใจ…..”ไปที่นี่หละวะ” ทีนี่ก็ถึงเวลาหาข้อมูล โดยการโทรศัพท์ถามผู้รู้ ได้ความว่า สถานที่เทียวแต่ละแห่งค่อนข้างไกลกัน ไม่มีรถจะลำบาก เอาละสิทีนี้ทำไงดีหละ จะไปเหมารถก็คงจะเกินกว่างบประมาณ เกือบถอดใจเปลี่ยนแผนอีกรอบ อย่างว่าหละครับ แผนมันเปลี่ยนกันได้ทุกๆสามนาที แต่เมื่อตัดสินใจไปแล้วก็ไปเถอะ อย่ามัวมานั่งกลัวนู่นนี่อยู่เลย รู้มากก็กลัวมาก เพราะฉนั้นไปทั้งๆที่ไม่รู้นี่หละ
จะไปเบตงง่ายที่สุดหากไม่ได้ไปจาก กทม. ก็คือไปต่อรถที่หาดใหญ่เพราะที่นี่มีทุกสิ่งให้คุณเลือกสรร จะไปมาเลย์ไปสิงคโปร์ก็มี ..เคยเห็นที่เชียงใหม่มีรถบัสบริการมาถึงหาดใหญ่นี่ ดังนั้นจากหาดใหญ่ก็ต้องมีรถไปเชียงใหม่เช่นกัน ลองหาดูดีๆ รถจากภูเก็ตมาถึงราวตีสามกว่าแต่ท่ารถหาดใหญ่ก็ยังคึกคักด้วยผู้คนเช่นเคย ผมได้รับข้อมูลจากแหล่งข่าวลับที่ยัน นอนยันได้ว่าจากหาดใหญ่มีรถตู้ไปเบตง คันแรกออกประมาณ 7 โมง ง่วงก็ง่วง จะให้รอถึง 8 โมงตายแน่ๆ หันซ้ายหันขวาทำไงดี พอดีมีรถ ป2 ไปสุดสายที่ยะลาเข้าท่ามาพอดี คันนี้หละวะเดี๋ยวไปหาทางต่อเอาที่ยะลา คงไม่ยากแล้วหละ ค่ารถ 70 บาท วิ่ง 2 ชม. อย่างน้อยก็ได้หลับไปอีกตื่น ครอกกก
ถึงยะลาเมื่อฟ้าสางพอดี พะรุงพะรังเดินลงมาจากรถงงงง ว่าที่ไหนคือบขส กันเนี่ย เนื่องด้วยน่าจะเป็นจุดรับส่งประจำของคนในพื้นที่มากกว่า แต่ทำมาด แบบพกความมั่นใจมาเต็มเป้ เดินอาดๆไปหารถมอเตอไซค์ ที่รอตอมหึ่งๆอยู่เต็มไปหมด


ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.painaima.com/old2/article/tai/betong01.jpg&imgrefurl=http://www.painaima.com/talk/%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2587-%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25B2-%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7.html&usg=__TVPSwf2P9kt_U43CRGezPZvZJ2s=&h=470&w=720&sz=47&hl=th&start=2&sig2=8cpANLD86V0UUPQfu_xHsw&zoom=1&tbnid=dankC_5F0uO8BM:&tbnh=91&tbnw=140&ei=5I18TrovjOitB9PZtNsP&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2587%26hl%3Dth%26gbv%3D2%26tbm%3Disch&itbs=1